สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า สิ่งที่เขียนขึ้นนี้เป็นประสบการณ์ตรงของคนๆหนึ่งที่ต้องสอบ TOEIC แต่ห่างหายจากการใช้ภาษาอังกฤษไปนานและมีพื้นฐานอังกฤษที่อ่อน ที่ได้ลองผิดลองถูกศึกษาหาแนวทางการเตรียมตัวสอบ TOEIC ผ่านเว็บไซต์ต่างๆจนเจอแหล่งความรู้ที่ไม่อยากให้เพื่อนๆที่ต้องสอบ TOEIC นั้นพลาด มีทั้งแบบฝึกหัด TOEIC มีทั้งแนว ข้อสอบ TOEIC บอกได้คำเดียวว่าครบเครื่อง โดยส่วนตัวแล้วผมเองเป็นคนที่ภาษาอังกฤษแย่มาก แย่สุดๆ แย่จนคิดว่าจะต้องสอบมากกว่าหนึ่งรอบแน่นอนกับการให้ได้ 500 คะแนน!! แน่นอนว่าผมไม่ได้เขียนผิด มันคือ 500 คะแนนจริงๆที่ผมต้องการ ซึ่งอาจจะเป็นงานหมูๆของเซียน TOEIC หรือคนที่เก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เลย มันเป็นอะไรที่ยากมาก แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะมันคือใบเบิกทางให้อาชีพการงานของผมก้าวหน้าขึ้นครับ นั่นเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของผมที่อยู่ดีๆก็ต้องมาฟื้นฟูภาษาอังกฤษของตัวเองอย่างจริงจัง รู้สึกว่าชีวิตดูมีสาระขึ้นเยอะ จะไม่เรียกว่ามีสาระได้ยังไงล่ะครับ วันๆอยู่แต่กับการหาข้อมูลฝึกทำข้อสอบ แต่ก่อนที่เราจะไปดูว่ามีเว็บไซต์อะไรบ้าง เรามาทำความรู้จักกับ ข้อสอบ TOEIC แบบคร่าวๆกันก่อนดีกว่านะครับ
TOEIC หรือ Test of English for International Communication เป็นข้อสอบวัดความความสามารถด้านภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ ซึ่งจัดทำและออกโดย ETS (Educational Testing Service) สหรัฐอเมริกา มีความเป็นสากลพอๆกับ ข้อสอบ TOEFL IELTS เลยล่ะครับ โดยข้อสอบประกอบไปด้วยสองพาร์ทหลักๆได้แก่ TOEIC Listening และ TOEIC Reading (ส่วน TOEIC Grammar จะอยู่ใน reading ) มีทั้งหมด 200 ข้อ ให้เวลาในการทำ 120 นาที โดยส่วนใหญ่มักใช้คะแนน TOEIC ในการยื่นสมัครงานครับ
และนั่นก็คือข้อมูลของ ข้อสอบ TOEIC ที่ต้องย้ำเลยว่าแค่คร่าวๆเท่านั้นครับ เรารู้จัก ข้อสอบ TOEIC กันแล้ว ไปดูกันต่อดีกว่าครับว่ามีเว็บไซต์ไหนบ้างที่ผมจะแนะนำในวันนี้

1. www.examenglish.com เป็นเว็บไซต์สำหรับคนที่เตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น IELTS TOEFL TOEIC และอื่นๆ คงไม่ต้องเดาว่าผมจะมุ่งไปที่ข้อสอบอะไร ผมกวาดสายตาอย่างรวดเร็วจนเจอสิ่งที่ผมต้องการนั่นคือ TOEIC ซึ่งมีครบทุกพาร์ทเหมือนข้อสอบจริง ประกอบไปด้วย TOEIC Part Listening แบ่งเป็น Photos, Questions, Conversations และ Talks อีกพาร์ทคือ TOEIC Reading แบ่งเป็น Incomplete Sentence, Error Recognition, Reading Comprehension และ Double Passage ในการตอบคำถามแต่ละข้อ รูปแบบการเฉลยจะเฉลยเลยทันทีหลังจากที่เราคลิกเลือกคำตอบว่าคำตอบนั้นถูกหรือผิด แต่จะไม่มีอธิบายให้ว่าทำไมจึงตอบข้อนั้นๆ จึงอาจจะต้องเรียนรู้เนื้อหาเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นๆควบคู่กันไปด้วยนะครับ นอกจากนี้ในเว็บไซต์ยังมีบอกข้อมูลอื่นๆของ ข้อสอบ TOEIC รวมถึงบอกด้วยว่าคะแนนแต่ละช่วงมีความหมายอย่างไรบ้าง ที่สำคัญมีเป็นแอพพลิเคชันให้ดาวน์โหลดลงมือถือได้ด้วยครับ

2. www.english-test.net เป็นอีกเว็บไซต์หนึ่งที่เหมาะสำหรับคนที่เตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษครับ มีรายวิชาให้เลือกเยอะมากๆ ส่วนใหญ่มักเป็นข้อสอบของทางอเมริกามากกว่า หนึ่งในนั่นก็คือ TOEIC ซึ่งมีข้อสอบให้เราทำครบถ้วนทั้ง TOEIC Listening และ TOEIC Reading แต่จะเน้นหนักไปที่ TOEIC Listening ซะเยอะครับ เพราะฉะนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องการฟัง ฟังไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยมั่นใจกับทักษะนี้ก็เข้าไปฝึกฝนกันได้ครับ หรือถ้าใครอยากจะฝึกภาษาอังกฤษด้านอื่นที่เกี่ยวกับ ข้อสอบ TOEIC เพิ่มก็มีให้เลือก เช่น อยากเน้นเรื่อง Grammar ในเว็บก็มี English Grammar Exercises ให้ฝึกทำ อยากฝึกเรื่องคำศัพท์ ฝึกเรื่อง Synonym ก็จะมีเป็น English Synonym Worksheets เป็นต้น

3. เว็บไซต์ www.englishteststore.net เป็นเว็บไซต์หนึ่งที่มีคลังข้อสอบค่อนข้างเยอะ แถมแบ่งเป็นหมวดๆให้ด้วยว่ามีเรื่องอะไรให้ฝึกทำบ้าง มีทั้งข้อสอบชุดย่อยๆ และข้อสอบเต็มรูปแบบให้เลือกฝึกทำกันครับ หากเป็นข้อสอบชุดย่อยๆจะเฉลยให้ทันทีครับว่าคำตอบที่เลือกนั้นถูกหรือผิด แต่หากเป็นข้อสอบที่เต็มรูปแบบเสมือนข้อสอบจริงจะเฉลยทีเดียวหลังจากทำเสร็จแล้ว ผมชอบตรงที่เวลาเราทำข้อสอบย่อยเขาจะมีแนะนำเทคนิควิธีการทำ ข้อสอบ TOEIC ในพาร์ทนั้นๆให้ก่อนด้วย เพราะฉะนั้นหากใครเพิ่งเริ่มต้นอาจเริ่มจากการทำข้อสอบย่อยก่อนก็ได้นะครับ จะได้ค่อยๆเรียนรู้วิธีการ พอเริ่มเก่งขึ้นแล้วก็ลองทำข้อสอบเสมือนจริงดูครับ

4. https://www.chulatutor.com/online/ สำหรับส่วนสุดท้ายจะเป็นการเรียน TOEIC ออนไลน์กับสถาบันจุฬาติวเตอร์ครับ เพราะการศึกษาและฝึกฝนเองเพียงอย่างเดียว สำหรับผมแล้วไม่เพียงพอแน่นอนครับ ลองนึกภาพดูว่าผมเองก็ไม่เก่งอยู่แล้ว แต่ต้องมาทำความเข้าใจกับเฉลยของข้อสอบ TOEIC ด้วยตนเอง ต้องทำความเข้าใจกับเนื้อหาบางเรื่องในหนังสือเอง ก็จะดูกระท่อนกระแท่นไปหน่อยอีกอย่างผมเองก็ไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวมากนักจึงเลือกเรียนเสริมเพื่อให้แม่นขึ้น มีเทคนิคแพรวพราวขึ้น เพราะแว่วๆมาว่า ข้อสอบ TOEIC นี่ต้องเร็ว ถ้าทำช้าๆแบบ Slow Life ยังไงก็ไม่มีทางทำทัน การเรียนคอร์ส TOEIC ซักคอร์สถือว่าช่วยได้เยอะเลยครับ แต่เนื่องจากผมไม่สะดวกไปเรียนที่สถาบันกับคอร์ส TOEIC ( https://www.chulatutor.com/toeic/ ) ที่สอนกันแบบสดๆ ผมจึงเลือกคอร์สเรียน TOEIC แบบออนไลน์แทน บอกเลยว่าโอเคมากครับ กระจ่างขึ้นเยอะทั้ง Grammar Reading และ Listening ทีเด็ดอยู่ตรงที่เราสามารถเปิดดูซ้ำไปซ้ำมากี่รอบก็ได้ภายในระยะเวลา 1ปี ในราคาที่ผมว่าก็ไม่แพงจนเกินไป มีการปรับพื้นฐานอังกฤษให้ใหม่ แม้จะไม่แม่น ไม่เก่งก็เรียนได้ มีการตะลุยโจทย์ TOEIC , มีแบบฝึกหัดให้ทำควบคู่กันไปด้วย ตรงไหนไม่เข้าใจก็วนกลับไปดูใหม่อีกซักรอบ ข้อดีคือไม่กระทบเวลางานหลักของเรา เราสามารถเลือกเรียนในช่วงเวลาที่เราสะดวกได้ ว่างตอนไหนก็เปิดดู ง่ายนิดเดียวครับ

      นับจากวันนั้นก็เดือนหนึ่งแล้วมั้งครับที่ผมหมกมุ่นอยู่กับการเตรียมสอบ TOEIC บอกเลยว่าการเตรียมตัวแบบที่ผมแนะนำเพื่อนๆมาจัดว่าใช้ได้เลยนะครับ เพราะอย่างน้อยมันทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของผมดีขึ้นมาก อาศัยเอาตัวเองคลุกคลีกับภาษาอังกฤษบ่อยๆ เรียนออนไลน์ให้พื้นฐานดี ทำโจทย์เก่งๆ พอเริ่มมีเทคนิคก็นำไปใช้ทำ ข้อสอบ TOEIC ตามเว็บไซต์ต่างๆ แรกๆผมก็ทำเป็น Pre-Test ไว้เหมือนกันครับ คะแนนนี่ดูไม่ได้เลย แต่พอเริ่มเรียน เริ่มจริงจัง เชื่อไหมครับว่าคะแนนมันดีขึ้น ผมนี่ดีใจจะแย่ แค่นี้ก็เกินคุ้มแล้วครับสำหรับคนที่ต้องเริ่มจากพื้นฐานใหม่อย่างผม ฝากถึงเพื่อนๆที่กำลังจะสอบ TOEIC นะครับ อยากให้ลองเข้าไปฝึกทำ ข้อสอบ TOEIC ลองเตรียมตัวจริงๆจังๆดู แล้วจะคิดแบบผมว่าจริงๆแล้วเราเองก็ทำได้นี่น่า ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบนะครับ

ขอขอบคุณ:

www.examenglish.com
https://www.chulatutor.com/online/
www.english-test.net
www.englishteststore.net