การเขียนประวัติย่อ (Resume)
คำว่า “Resume” นี้มาจากภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่า Summary แปลเป็นไทยว่าสรุปหรือย่อ
ปัจจุบันนี้ Resume นับว่ามีความสำคัญเท่าๆ กับจดหมายสมัครงาน (Application Letter) ก็แทบจะว่าได้
โดยฝ่ายนายจ้างมักจะระบุให้ผู้สมัครส่ง Resume แนบไปพร้อมกับจดหมายสมัครงานด้วย อาทิเช่น
- Please submit application letter stating expected salary, resume and a recent photo to …
(โปรดยื่นจดหมายสมัครงานพร้อมทั้งแจ้งเงินเดือนที่ต้องการพร้อมทั้งแนบประวัติย่อและรูปถ่ายปัจจุบันหนึ่งไปไปที่ ...)
ความสำคัญของ Resume
วัตถุประสงค์ในการเขียน Resume ก็คือ การประกาศ ผลงาน ความสำเร็จ และคุณสมบัตินานัปการของตัวเราให้เป็นที ปรากฏแก่สายตาของผู้ว่าจ้าง ซึ่งแน่นอนว่า หาก Resume ของเราเข้าตานายจ้างแล้ว
เราก็จะมีโอกาส ได้เข้าไป พูดคุยกันแบบเผชิญหน้า หรือที่เรียกว่า การสัมภาษณ์งานนั่นเอง
ลักษณะของ Resume ที่ดี
1. ยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ (A4) และเป็นกระดาษสีขาว มีคุณภาพ แต่ถ้าเป็นนักศึกษาจบใหม่แล้ว ควรจะเขียนให้จบในหนึ่งหน้ากระดาษเท่านั้น
2. อย่าใช้คำย่อในคำที่ ไม่ควรย่อ
3. ในกรณีที่ ระบุงานอดิเรกเข้าไว้ด้วย ก็ควรระวังว่างานอดิเรกที่ เราเอ่ยถึงนั้นมีความเหมาะสมกับงาน
ที่เราสมัครหรือเปล่า
ส่วนประกอบที่สำคัญของ Resume มีดังนี้
1. หัวเรื่องประกอบด้วยชื่อผู้เขียน โดยใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ (Capital Letters) ซึ่งจะอยู่ด้านบนสุด ส่วนที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ให้ใช้อักษรตัวพิมพ์เล็ก (low case letters)
2. จุดมุ่งหมาย คือจุดมุ่งหมายหรือตำแหน่งที่ต้องการสมัคร ถ้าต้องการสมัครในตำแหน่งใดก็ให้ระบุ ชื่อตำแหน่งนั้น หรือไม่ก็อาจจะบอกเป็นสายงานที่ตนต้องการทำก็ได้
3. การศึกษา
4. ประสบการณ์
5. คุณสมบัติพิเศษ เกี่ยวกับคุณสมบัติพิเศษนี้ ไม่ได้บังคับว่าจะต้องมี ถ้าไม่มีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ก็ตัดออกไป คุณสมบัติพิเศษที่กล่าวถึงนี้ เช่น ความสามารถทางด้านภาษา ด้านการเขียน หรือขับรถยนต์ได้
6. รายละเอียดส่วนตัว รายละเอียดส่วนตัวประกอบด้วย
Sex = เพศ
Age = อายุ
Date of birth = วันเดือนปีเกิด
Place of birth = สถานที่ เกิด
Nationality = สัญชาติ
Race = เชื้อชาติ
Height = ความสูง
Weight = น้ำหนัก
Height = สุขภาพ (Good health หรือ Excellent)
Address = ที่อยู่
Marital status = สถานภาพการสมรส
Religion = ศาสนา
Military status = สถานภาพทางการทหาร และในส่วนนี้ อาจจะเพิ่มงานอดิเรกเข้มาอีกก็ได้ถ้ามี
7 .บุคคลอ้างอิงบุคคลที่เป็นนายจ้างเก่าของเรา จะเหมาะสมที่สุดสำหรับใช้เป็นบุคคลอ้างอิง แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็อาจจะเปลี่ยนเป็น ครู อาจารย์ ที่เคยสอนเพื่อร่วมธุรกิจ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ต้องไม่ใช่ญาติ หรือเพื่อนสนิทของเรา และที่เรียกว่าบุคคลอ้างอิง อีกนัยหนึ่งก็คือ บุคคลที่จะสามารถตรวจสอบประวัติ
และความประพฤติของเราได้ และควรอ้างมา 2-3 ท่าน พร้อมทั้งที่จะติดต่อไป และอาชีพของเขาเหล่านั้น
เทคนิคการเขียน Resume
กระชับและรัดกุม Resume ที่ดีควรเขียนให้กระชับ ชัดเจน หลีกเลี่ยงการใช้ย่อหน้ายาวเกินไป
และควรประกอบไปด้วยรายละเอียดข้อมูลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์กับคุณเอง โดยไม่ควรให้ยาวเกิน 1 หน้ากระดาษ A4
เลือกใช้คำที่ดึงดูดน่าสนใจ การใช้ภาษา Resume นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก Resume ที่ดีจะต้องชัดเจน อ่านง่าย และสามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ย้ำเน้นให้เห็นประสบการณ์ความสามารถของตัวคุณ
- อย่าเขียนคลุมเครือ ควรเขียนในสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดแจ้ง เช่น “สามารถเพิ่มยอดขายจาก ปี ที่ผ่านมาถึง 20%” เป็นต้น
- ควรซื่อสัตย์เขียนแต่สิ่งที่เป็นจริงเท่านั้น ไม่ควรเขียนเท็จหรือโอ้อวดจนเกินจริง เพราะสามารถจับผิดได้ไม่ยากในขั้นตอนการสัมภาษณ์งานหรือหากคุณ โชคดีได้งานทำไป ก็อาจถูกเชิญออกได้ในภายหลัง หากข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นกองกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อย่าละเลยรูปร่างหน้าตาของ Resume
เป็นสิ่งที่จะสร้างความประทับใจครั้งแรกให้แก่ผู้ว่าจ้าง ดังนี้ Resume ที่จะดึงดูดใจ ผู้อ่าน จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับถ้อยคำที่คุณบรรจงแต่งลงไปใน Resume เท่านั้น แต่คุณยังต้องให้ความสำคัญด้วย ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ถ้อยคำ เหล่านั้นมีค่าขึ้นมาด้วย
- ตรวจสอบความถูกต้องไวยกรณ์และตัวสะกดใน Resume ให้ดีเพราะมันจะสะท้อนให้เห็นถึงทักษะการสื่อสารและความใส่ใจ ในรายละเอียดของคุณ
- วางรูปแบบของ Resume ให้อ่านง่าย อาจเว้นขอบบนไว้ 1 นิ้ว และขอบล่าง 1.25 นิ้ว
- อย่างพิมพ์ข้อความให้เกินล้นออกมาจนดูไม่เป็นระเบียบ
- หลีกเหลี่ยงการใช้ตัวอักษรที่หวือหวาหรืออ่านยาก ควรใช้ตัวอักษรที่ใช้กันทั่วไป หรือดูเป็นทางการ
- ควรใช้กระดาษที่มีคุณภาพ สีขาว ขนาด A4 ไม่มีเส้นบรรทัด
- ไม่ควรใช้หัวกระดาษจดหมายของหน่วยงานใดๆ มาใช้
- หากจะถ่ายเอกสาร Resume ไว้ใช้ ควรระวังอย่าให้มีรอยเปรอะเปื้อน