มาเรียนรู้การเปลี่ยนคำกริยาให้เป็น V ing โดยมากฏและข้อสังเกตง่ายๆดังนี้ครับ มาเรียนรู้การเปลี่ยนคำ
1. โดยส่วนมากแล้วเราสามารถเติม ing ท้ายกริยาได้เลย ยกตัวอย่างเช่น
eat เป็น eating
sleep เป็น sleeping
2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e (กรณีไม่ออกเสียงตัว e) ให้ตัด e ทิ้งเสียก่อน แล้วจึงเติม ing หลังคำนั้น ยกตัวอย่างเช่น
move เป็น moving
write เป็น writing
ride เป็น riding
3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย ไม่ต้องมีการตัดตัว e ทิ้งเหมือนในกรณีที่ 2 ยกตัวอย่างเช่น
see เป็น seeing
agree เป็น agreeing
4. กริยาที่เป็นคำพยางค์เดียว มีสระ(a/e/i/o/u) เพียงตัวเดียวและท้ายคำกริยามีพยัญชนะสะกดเพียงตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย 1 ตัว แล้วจึงเติม ing ยกตัวอย่างเช่น
run เป็น running
put เป็น putting
5. กริยาที่เป็นคำสองพยางค์ มีสระ(a/e/i/o/u)นำหน้าพยัญชนะตัวสะกดตัวท้ายสุด ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย 1 ตัว แล้วจึงเติม ing ยกตัวอย่างเช่น
begin เป็น beginning
occur เป็น occurring
eat เป็น eating
sleep เป็น sleeping
2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e (กรณีไม่ออกเสียงตัว e) ให้ตัด e ทิ้งเสียก่อน แล้วจึงเติม ing หลังคำนั้น ยกตัวอย่างเช่น
move เป็น moving
write เป็น writing
ride เป็น riding
3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย ไม่ต้องมีการตัดตัว e ทิ้งเหมือนในกรณีที่ 2 ยกตัวอย่างเช่น
see เป็น seeing
agree เป็น agreeing
4. กริยาที่เป็นคำพยางค์เดียว มีสระ(a/e/i/o/u) เพียงตัวเดียวและท้ายคำกริยามีพยัญชนะสะกดเพียงตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย 1 ตัว แล้วจึงเติม ing ยกตัวอย่างเช่น
run เป็น running
put เป็น putting
5. กริยาที่เป็นคำสองพยางค์ มีสระ(a/e/i/o/u)นำหน้าพยัญชนะตัวสะกดตัวท้ายสุด ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย 1 ตัว แล้วจึงเติม ing ยกตัวอย่างเช่น
begin เป็น beginning
occur เป็น occurring